วันจันทร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ไตรภูมิพระร่วง การบ้านภาษาไทย

ไตรภูมิพระร่วง
หนังสือไตรภูมิพระร่วงเป็นหนังสือสำคัญสมัยกรุงสุโขทัยที่ตกทอดมาถึงปัจจุบัน เป็นวรรณคดีทางศาสนาที่มีอิทธิพลต่อคนไทยมาก เดิมเรียกว่า "เตภูมิกถา หรือไตรภูมิกถา" ในการพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2455 สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงเปลี่ยนชื่อหนังสือเล่มนี้เป็น "ไตรภูมิพระร่วง" เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระร่วงเจ้าแห่งกรุงสุโขทัยให้คู่กับหนังสือสุภาษิตพระร่วง ผู้แต่งพระมหาธรรมราชาที่ 1 (พระยาลิไท)ความมุ่งหมาย
1. เพื่อเทศนาโปรดพระมารดา เป็นการเจริญธรรมความกตัญญู
2. เพื่อใช้สั่งสอนประชาชนให้มีคุณธรรมและช่วยกันดำรงพระพุทธศาสนาไว้ให้ยั่งยืนลักษณะการแต่ง แต่งเป็นร้อยแก้วเนื้อหาสาระ เริ่มต้นด้วยคาถานมัสการเป็นภาษาบาลี ต่อไปมีบานแพนกบอกชื่อผู้แต่ง วันเดือนปีที่แต่ง บอกชื่อคัมภีร์ บอกความมุ่งหมายในการแต่ง แล้วจึงกล่าวถึงภูมิทั้ง 3 ว่า "อันว่าสัตว์ทั้งหลายย่อมจะเวียนวนไปมาและเกิดในภูมิ 3 อันนี้แล" คำว่า "ไตรภูมิ" แปลว่า สามแดน คือ กามภูมิ , รูปภูมิ , และอรูปภูมิ ทั้ง 3 ภูมิแบ่งออกเป็น 8 กันฑ์ คือ
1. กามภูมิ มี 6 กัณฑ์ คือ
1.1. นรกภูมิ เป็นแดนนรก
1.2. ดิรัจฉานภูมิ เป็นแดนของสัตว์ที่เจริญตามขวาง
1.3. เปตภูมิ เป็นแดนของเปรตที่เคยเป็นมนุษย์และทำความชั่วเกิดเป็นเปรต
1.4. อสุรกายภูมิ เป็นแดนของยักษ์มารหรือผีที่หลอกมนุษย์ให้ตกใจกลัว
1.5. มนุสสภูมิ เป็นแดนของมนุษย์
1.6. ฉกามาพจร เป็นแดนของเทวดาที่ยังเกี่ยวข้องในกาม มี 6 ชั้น คือ จาตุมหาราชิก , ดาวดึงส์ , ยามะ , ดุสิต , นิมมานรดี , ปรนิมมิตวสวดี
2. รูปภูมิ มี 1 กัณฑ์ คือ รูปาวจรภูมิ เป็นแดนของพรหมที่มีรูป แบ่งเป็น 16 ชั้น ตามภูมิธรรม เรียกว่า โสฬสพรหม
3. อรูปภูมิ มี 1 กัณฑ์ คือ อรูปาวจรภูมิ เป็นแดนของพรหมไม่มีรูป มีแต่จิต แบ่งเป็น 4 ชั้นคุณค่า
1. ด้านศาสนา ไตรภูมิพระร่วงเป็นหนังสืออ่านยาก ตั้งแต่สมัยสุโขทัยตลอดมาจนกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น ผู้ที่นำไตรภูมิไปสู่ชาวบ้านก็คือพระสงฆ์ และนำไปโดยการเทศนา ทำภาษายากให้เป็นภาษาง่ายที่ชาวบ้านเข้าใจได้ โดยเฉพาะเนื้อเรื่องนั้นมีอิทธิพลต่อความรู้สึกนึกคิดเกี่ยวกับบาปบุญคุณโทษ การเกิดการตาย เกี่ยวกับโลกทั้งสาม (ไตรภูมิ) ซึ่งทำให้คนสมัยกรุงสุโขทัยเข้าใจเรื่องชีวิตของตนเองว่าเกิดมาอย่างไร ตายแล้วไปไหน โลกที่อยู่ปัจจุบันและโลกหน้าเป็นอย่างไร
2. ด้านภาษา สำนวนโวหารในไตรภูมิ โดยเฉพาะพรรณนาโวหารนั้นประณีตละเอียดลออเป็นอย่างยิ่ง จนทำให้นึกเห็นสมจริง ให้เห็นสภาพอันน่าสยองขวัญของนรก สภาพอันรุ่งเรืองบรมสุขของสวรรค์ จนจิตรกรอาจถ่ายบทพรรณนานั้นลงเป็นภาพได้ เราจะเห็นภาพฝาผนังของวิหารและโบสถ์ตามวัดต่างๆ ไป (นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงทางภาษาระหว่างสมัยพ่อขุนรามคำแหงกับสมัยพระมหาธรรมราชาลิไท)
3. ด้านสังคม มุ่งใช้คุณธรรมความดีเป็นพื้นฐานการสร้างสรรค์ความสุขในสังคม
4. ด้านอิทธิพลต่อกวียุคหลังกวียุคหลังได้ใช้ไตรภูมินี้เป็นแนวพรรณนาป่าหิมพานต์ เขาพระสุเมรุ วิมานพระอินทร์ ส่วนจิตรกรได้อาศัยความคิด ความเชื่อในไตรภูมิ เป็นแนวการสร้างสรรค์งานศิลปะ รวมความว่า ไตรภูมิพระร่วงเป็นหนังสือเก่าชั้นวรรณคดีที่มีอิทธิพลต่อความคิดอ่านของคนไทยในเรื่องบาปบุญคุณโทษ ในด้านจิตรกรรมฝาผนังโบสถ์ต่างๆ และวรรณคดีตั้งแต่สมัยสุโขทัยจนถึงสมัยปัจจุบัน หนังสือนี้แสดงให้เห็นพระปรีชาสามารถของพระยาลิไทในด้านศาสนา และใช้จริยธรรมในการบริหารบ้านเมือง และยังแสดงให้เห็นพระสติปัญญา ตลอดจนให้แนวคิดในเชิงปรัชญา สังคม และค่านิยมของสังคมเป็นอย่างดียิ่งตัวอย่างในไตรภูมิพระร่วง ผลแห่งการทำบาป "คนผู้ใดกล่าวคำร้ายแก่สมณพราหมณ์ผู้มีศิลและพ่อแม่และผู้เฒ่าผู้แก่ครูปาทยาย คนผู้นั้นตาย ไปเกิดในนรกอันได้ขื่อว่า สุนักขนรกนั้นแล ในสุนักขนรกนั้นมีหมา 4 สิ่ง หมาจำพวกหนึ่งนั้นขาว หมาจำพวกหนึ่งนั้นแดง หมาจำพวกหนึ่งนั้นดำ หมาจำพวกหนึ่งนั้นเหลือง และตัวหมาผู้นั้นใหญ่เท่าช้างสารทุกตัว ฝูงแร้งแลกาอันอยู่ในนรกนั้นใหญ่เท่าเกวียนทุกตัว ปากแร้งแลกาแลตีนนั่น เทียรย่อมเหล็กแดงลุกเป็นเปลวไฟอยู่มิได้เหือดสักคาบ แร้งแลกาหมาฝูงนั้นเทียรย่อมจิกแหกหัวอกขบตอดคนทั้งหลายในนรกด้วยบาปกรรมของเขานั้น แลมิให้เขาอยู่สบายแลให้เขาเจ็บปวดสาหัส ได้เวทนาพ้นประมาณ ทนอยู่ในนรกอันชื่อสุนักขนรกนั้นแล"

0 ความคิดเห็น: